
ถนัด Output Skills? เลือก IELTS
ถ้าคุณชอบพูดและเขียน (speaking, writing) แบบมี block ชัดเจน IELTS คือคำตอบ เพราะมีรูปแบบอ่าน-ฟังที่ช่วยฝึกเป็นระบบ ยิ่งฝึก “คิดให้เป็นกรอบ” ใน speaking/writing มากเท่าไหร่ ก็พัฒนาภาษาใช้ในชีวิตจริงได้ชัดเจนมากขึ้นค่ะ
ถนัด Input Skills? มาทาง PTE ได้เลย
ถ้าชอบอ่านและฟัง (reading, listening) PTE เน้นฝึกเสียงชัดเจน มี template ใน writing และ speaking ซ้ำ ๆ เหมือนเล่นเกม ให้ผลดีเรื่องการออกเสียง แต่ข้อควรระวังคือระบบประเมิน multi‑skill เต็มรูปแบบ เลยต้องฝึกครบถ้วนทุกทักษะค่ะ
สรุปเปรียบเทียบ IELTS กับ PTE
ด้านภาษา
- คำศัพท์: IELTS = PTE
- แกรมม่า: IELTS > PTE
- การออกเสียง: IELTS < PTE
- คิดก่อนพูด/เขียน: IELTS > PTE
- Flow การพูด: IELTS < PTE
ด้านอื่นๆ ที่ควรรู้
- ความเป็นสากล: IELTS > PTE
- ค่าสอบ: IELTS ถูกกว่าเล็กน้อย
- ใช้งานจริง: IELTS > PTE
- รอผลเร็ว: IELTS <<< PTE
- เทคนิคช่วยสอบ: IELTS < PTE
- Bias ผู้ประเมิน: IELTS < PTE
- ความสงบในห้องสอบ: IELTS > PTE
- เขียนมือได้: IELTS > PTE
- ซ้อมผ่านแอพ: IELTS < PTE
- อายุผลสอบ: IELTS = PTE (2 ปี)
เรื่อง Retake และผลสอบ
IELTS มี One Skill Retake แต่หลายหน่วยงานสายพยาบาลยังไม่รับผลแยก ส่วน PTE บางแหล่งรวมคะแนน 2 ครั้ง แต่ที่สายพยาบาลก็ยังต้องใช้ผลครั้งเดียวเช่นกัน
คำแนะนำส่งท้าย
สุดท้ายเลือกอย่างหนึ่งที่รู้สึก “ใช่” แล้วฝึกอย่างสม่ำเสมอ หาข้อมูลเสริมซาวด์จริง และซ้อมจนคล่อง เท่านั้นแหละค่ะ!
The more you practice, the better you get. ยิ่งซ้อมมาก ก็จะยิ่งเก่งขึ้นเอง 💪
หวังว่าบทความนี้การ เปรียบเทียบ IELTS กับ PTE จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ 😊
#อะตอมเด็กเนิร์ส #atomdeknurse #เรียนพยาบาลที่ออสเตรเลีย
FAQ – เปรียบเทียบ IELTS กับ PTE
IELTS กับ PTE อันไหนรู้ผลเร็วกว่า?
PTE ใช้เวลาแค่ 2–5 วัน ส่วน IELTS รอประมาณ 13 วัน
สอบประเภทไหนใช้ส่วนไหนคล่องกว่า?
IELTS เหมาะคนถนัดพูดเขียนเชิงวิเคราะห์ ส่วน PTE เหมาะคนชอบฝึกผ่านระบบเสียงชัดเจนและ template
สอบทั้งสองได้ไหม?
ได้ค่ะ แต่แนะนำเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วโฟกัสให้สุด จะได้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่า 😊